คลิกโทรหาเรา
วัชพืช
วัชพืช คือ พืชที่ขึ้นผิดตำแหน่ง เจริญเติบโตเร็ว ทำให้พืชหลักของเราถูกแย่งสารอาหาร แย่งน้ำ บดบังแสงแดด เป็นที่อาศัยของศัตรูพืช ทำให้พืชหลักเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่หรือเจริญเติบโตช้า 5 วัชพืชที่มักพบเจอในสวน หญ้าแห้วหมู หญ้าคา กกทราย หญ้ารังนก ไมยราบเครือ
 
วัชพืช แบ่งได้ 2 ประเภท ดังนี้
 
1. วัชพืชที่แบ่งตามอายุของวัชพืช ได้แก่
1.
วัชพืชล้มลุก เป็นวัชพืชที่มีอายุปีเดียว หรือไม่เกิน 1 ฤดู เช่น ผักเบี้ย ผักโขม ผักยาง หญ้าปากควาย หญ้าตีนนก
2.
วัชพืชยืนต้น เป็นวัชพืชที่มีอายุอยู่ได้หลายปี เช่น หญ้าคา หญ้าขน แห้วหมู หญ้าแพรก หญ้าชันกาด สาบเสือ ไมยราบ
2. วัชพืชที่แบ่งตามลักษณะของลำต้นหรือใบ ได้แก่
1.
วัชพืชใบแคบ เป็นวัชพืชใบเลี้ยงเดี่ยว
วัชพืชวงศ์หญ้า เช่น หญ้าคา หญ้าขน หญ้าขจรจบ หญ้าปากควาย หญ้ารังนก หญ้าตีนนก หญ้าขจรจบ
วัชพืชวงศ์กก เช่น กกขนาก กกสามเหลี่ยม กกทราย แห้วหมู แห้วกระดาน แห้วทรงกระเทียม
2.
วัชพืชใบกว้าง เป็นวัชพืชใบเลี้ยงคู่
เช่น ผักเบี้ย สาบเสือ ไมยราบ บานไม่รู้โรยป่า น้ำนมราชสีห์ ผักโขมหนาม ผักเสี้ยน ผักยาง ผักปราบ
3.
วัชพืชประเภทเฟิร์น เช่น ผักแว่น ผักกูดนา จอกหูหนู
4.
วัชพืชประเภทสาหร่าย เช่น สาหร่ายไฟ ตะไคร่น้ำ
5.
วัชพืชน้ำ เช่น ผักตกชวา จอกแหน
6.
วัชพืชจำพวกกาฝาก ที่ขึ้นบนต้นไม้ เช่น กล้วยไม้ต่างๆ ฝอยทอง
 
 
 
 
การกำจัดวัชพืช
1 ดึงออกด้วยมือ
เหมาะสำหรับพื้นที่เล็กและเพิ่งพบจำนวนน้อย สามารถถอนออกมาได้ทั้งรากทั้งโคน แต่ต้องทำให้ดินอ่อนนุ่มเสียก่อน จึงทำให้ดึงออกมาได้ง่าย
2 กำจัดด้วยการใช้สารเคมีฉีดพ่น
แบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ตามลักษณะการใช้ได้ 2 ประเภท คือ
2.1 สารคุมวัชพืช ใช้พ่นลงบนดินตอนเตรียมดิน เข้าทำลายยับยั้งส่วนที่อยู่ใต้ดินของวัชพืช
2.2 สารฆ่าวัชพืช ใช้พ่นลงบนใบ เข้าทำลายโดยพืชจะดูดซึมไปยังส่วนต่างๆ ของวัชพืช
 
การพรวนดิน
การพรวนดินในพื้นที่ปลูกต้นไม้เป็นขั้นตอนสำคัญ ที่ช่วยเตรียมพื้นที่ให้เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของต้นไม้ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศและน้ำในดิน ทำให้ดินมีความชื้น มีความร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดี รากพืชหาอาหารได้ดีขึ้น ช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี
 
 
วิธีการพรวนดินที่ถูกต้อง
1.
ควรเริ่มจากใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม คือ ส้อมพรวน เพราะเป็นเครื่องมือเล็ก เหมาะมือ ทำให้สามารถพรวนดิน ด้วยแรงที่เหมาะสม ไม่รุนแรงจนเกินไป จนอาจส่งผลกระทบต่อรากพืชได้
2.
การใช้ส้อมพรวน จอบ เสียม เหมาะกับงานขุดพลิกหน้าดินที่แห้งกรัง
3.
พรวนดินลงไปบริเวณรอบๆ ต้นไม้เท่านั้น ไม่ควรพรวนดินตรงโคนต้นไม้ หรือ รากต้นไม้เลย เพราะอาจเข้าไปทำลายรากพืชให้เสียหาย
4.
โดยควรพรวนดินเมื่อดินแห้ง แน่นพอสมควร ไม่ควรพรวนดินบ่อยๆ เพราะอาจกระทบกระเทือนต่อรากพืช
ประโยชน์ของการพรวนดิน
1. ดินมีความร่วนซุย รากพืชหาอาหารได้ดีขึ้น
ปลูกพืชไปนาน ๆ ดินมักแห้งและแน่นทึบ ทำให้รากพืชหาอาหารได้ลำบาก ดังนั้น การพรวนดิน จะช่วยให้ดินมีความร่วนซุย เวลารดน้ำใส่ปุ๋ย ก็จะทำให้รากพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหาร หาอาหารได้ดีขึ้น
2. เพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำ รักษาความชื้นภายในดิน
เมื่อพรวนดินลงไป จะช่วยพลิกหน้าดินที่แห้งกรัง กลับเป็นหน้าดินที่ชุ่มชื้น ทำให้เวลารดน้ำลงไป จะช่วยเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำ ช่วยรักษาความชื้นภายในดิน ให้คงอยู่ยาวนาน
3. อินทรีย์วัตถุย่อยสลายได้ดีขึ้น
เวลาพรวนดิน เรามักรดน้ำใส่ปุ๋ยด้วย เพราะหลังจากเราพรวนดินลงไปแล้ว จะทำให้ดินมีความร่วนซุย ช่วยให้อินทรียวัตถุย่อยสลายในดินได้ดีขึ้น รากพืชก็สามารถเข้าถึงธาตุอาหารต่าง ๆ ได้ง่าย
4. กำจัดวัชพืชไม่ให้เจริญเติบโต
หากมีวัชพืชขึ้นอยู่รอบ ๆ การพรวนดินจะช่วยถอน และ กำจัดวัชพืชไม่ให้เจริญเติบโต หยุดการแย่งธาตุอาหารกับพืชที่เราปลูก
5. ลดการพังทลายของหน้าดิน
กรณีที่ปลูกพืชในสวนหรือแปลงปลูก แล้วเราพรวนดินเป็นก้อนโต ๆ จะเกิดช่องว่างระหว่างดิน ทำให้แม้ฝนตกหนัก ก็จะช่วยชะลอการไหลของน้ำ ลดการพังทลายของหน้าดินได้
 
© 2024 Oregon-Scape. All Rights Reserved.